เขียนวันที่
วันอังคาร ที่ 31 มกราคม 2566 เวลา 00:43 น.
การเปิดตัว 2 ขุนพลพรรคสร้างอนาคตไทย นายอุตตม สาวนายน และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ย้ายชายคาไปอยู่กับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำให้ “ภูมิทัศน์การเมือง” ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เปลี่ยนไปพอสมควร
เหตุเพราะพรรคสร้างอนาคตไทยมีดีลกับ “บ้านใหญ่ยาวอหะซัน” แห่งนราธิวาสเอาไว้ แกนนำพรรคอย่าง นายสนธิรัตน์ เพิ่งลงไปร่วมงานแต่งงานของหลานสาวนายกูเซ็ง ช่วงปีใหม่ นำมาโพสต์ภาพและข้อความลงเฟซบุ๊กอย่างคึกคัก
และเมื่อ 22 ม.ค.66 นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการฝ่ายการเมืองพรรคสร้างอนาคตไทย ยังเดินทางไปร่วมประชุมกับ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาสผูกขาดเกือบ 2 ทศวรรษ ในฐานะ “บ้านใหญ่เมืองนราฯ” มอบหมายความไว้วางใจให้รับหน้าเสื่อจัดทีมผู้สมัครลงทุกพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดใกล้เคียงอย่าง จ.สตูล และสงขลาด้วย
เลือกตั้ง 66 นราธิวาสมี 5 เขต เดิม “ยาวอหะซัน” จะเหมาส่งผู้สมัครยกจังหวัด แต่ติดที่ลูกชายคนหนึ่งของ “นายก กูเซ็ง” คือ นายกูเฮง ยาวอหะซัน ยังเหนียวแน่นอยู่กับพรรคประชาชาติ เขตนี้จึงมีแนวโน้มจะเว้นไว้ให้
ส่วนอีก 2 เขต คือ สุไหงโก-ลก กับ ตากใบ เป็นเขตอิทธิพลของ นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ หรือ “ส.ส.บีลา” แห่งพลังประชารัฐ คนสนิทของทั้ง นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คาดว่าจะสู้กันดุเดือด
แต่เมื่อ นายอุตตม กับนายสนธิรัตน์ เข้าร่วมงานพรรคกับพลังประชารัฐ “บ้านใหญ่ยาวอหะซัน” ที่ดีลไว้ก็น่าจะย้ายตามไปด้วย เพราะเดิมก็สังกัดพลังประชารัฐอยู่แล้ว จึงมีโอกาสที่พลังประชารัฐจะปิดนราธิวาส กวาดทั้ง 5 เขต หรืออย่างน้อยก็ 4 เขต เว้นให้พรรคประชาชาติแค่เขตเดียว
เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ พรรคประชาชาติที่คาดหวังจะกวาด 10 จาก 12 เขตของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเจองานยากมากขึ้น และอาจเหลือเก้าอี้เพียง 5-6 เก้าอี้ ใกล้เคียงกับเมื่อปี 62
@@ ประชาชาติสู้กลับ เปิดภาพ “ทวี ฟีเวอร์”
ทันทีที่มีข่าว 2 ขุนพล “สี่กุมาร” จากสร้างอนาคตไทย ย้ายซบพลังประชารัฐ และอาจทำให้ภูมิทัศน์การเมืองชายแดนใต้เปลี่ยนแปลง พลังประชารัฐมีลุ้นกวาดนราธิวาสยกจังหวัด 5 เก้าอี้ และทำให้แผนของพรรคประชาชาติที่จะกวาด ส.ส.10 จาก 12 เก้าอี้ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นไปได้ยากนั้น
ปรากฏว่าทีมงานของ “พรรคประชาชาติ” ได้เผยแพร่ภาพกิจกรรมของพรรค โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เดินทาง ไปหอประชุมมูลนิธิยะลาผดุงประชา ร่วมกิจกรรมสานสัมพันธ์พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนจังหวัดยะลา เนื่องในโอกาสเทศกาลตรุษจีน ปี 2566 ปรากฏว่าพี่น้องมาร่วมงานและขอถ่ายรูปกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แทบปลีกตัวกลับไม่ได้
แกนนำพรรคยืนยันว่า พรรคประชาชาติได้รับความนิยมอย่างมากในพื้นที่ชายแดนใต้ และคว้าเก้าอี้ได้ตามเป้าหมายแน่นอน ไม่เว้นแม้แต่ จ.นราธิวาส ที่มี “นายก กูเซ็ง” เป็นบ้านใหญ่ก็ตาม
@@ รุกจัดอบรม 15 เขตเป้าหมาย “ต้องชนะเท่านั้น”
วันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 28-29 ม.ค.66 ที่หอประชุมมูลนิธิมะทา จ.ยะลา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรบริหารศูนย์อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเพื่อชนะการเลือกตั้ง พร้อมบรรยายพิเศษ เรื่อง “พรรคประชาชาติกับชัยชนะในการเลือกตั้ง” โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส.ของพรรค และสมาชิกพรรค ร่วมกิจกรรมอย่างเนืองแน่น
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า เป็นการอบรมสมาชิกทั้ง 15 เขต (จำนวนเขตที่พรรคส่งผู้สมัคร ส.ส.) ซึ่ง 15 เขตนี้ควรจะได้รับชัยชนะ ทำไม่ถึงกล้าพูดว่าสามารถเอาชนะ ได้ทั้ง 15 เขต เพราะการอบรมตลอด 2 วันนี้ จะทำให้ทุกคนมีความรู้และเข้าใจในมิติต่างๆของการเอาชนะการเลือกตั้งครั้งนี้
“วันนี้เรามาคุยกันแบบครอบครัวประชาชาติ พูดตรง พูดความจริง เราคือครอบครัวเดียวกัน และเทคโนโลยีใหม่ๆ คือการสือสาร คือโอกาสของการเมืองเพื่อชนะการเลือกตั้ง เราจะทำอย่างไรให้ชนะ เพราะวันนี้เราเกือบชนะแล้ว”
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวปิดการอบรม ตอนหนึ่งว่า พรรคประชาชาติไม่มีเงิน ไม่มีอำนาจรัฐที่จะไปแข่งกับพรรคอื่น แต่สิ่งที่เหนือกว่าพรรคอื่น คือเรามีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน
“พรรคประชาชาติจะทำให้ภาษามลายูเป็นภาษาราชการภาษาที่ 2 ถ้าคนไทยทั้งประเทศยังยอมรับไม่ได้ ก็ให้เป็นภาษาที่ 2 ในพื้นที่ที่มีประชาชนส่วนใหญ่พูดภาษามลายู เพราะมิฉะนั้นเราจะอยู่ไม่ได้ เนื่องจากภาษาคือโอกาสของการค้าขาย และประเทศรอบบ้านเรา ทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย ล้วนใช้ภาษามลายู” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
เลขาธิการพรรคประชาชาติ บอกด้วยว่า พรรคกล้าประกาศจะทำให้เกษตรกรมีกรรมสิทธิ์ ในที่ดินทำกิน ครอบครัวละ 20 ไร่ ฉะนั้นขอโอกาสให้เราเป็นรัฐบาล พรรคจะแก้ปัญหาของประชาชน คือ ต้องทำให้ลูกหลานมีความหวัง มีความฝัน ขจัดความกลัว
“พรรคประชาชาติหวังคะแนนเลือกตั้งเขตละ 5 หมื่นคะแนน เราจะแลนด์สไลด์ในภาคใต้ เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น วันนี้ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่เราจะต้องเอาชนะทุกพื้นที่” พ.ต.อ.ทวี กล่าวทิ้งท้าย
@@ จับตา “พรรคเป็นธรรม” โผล่ตัดคะแนนก้าวไกล?
อีกหนึ่งพรรคที่น่าจับตาในพื้นที่ชายแดนใต้ เพราะเป็นขวัญใจเยาวชนคนรุ่นใหม่ คือพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ทราบสถานการณ์นี้ รวมถึงในพื้นที่เขต 1 เขตเมือง และจังหวัดที่มีมหาวิทยาลัยทั่วทุกภาคของประเทศด้วย
ที่ผ่านมา กระแสขวัญใจคนรุ่นใหม่ และคนที่ต้องการจะเปลี่ยนประเทศแบบ “พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน” ของก้าวไกล ทำให้เพื่อไทยวิตกพอสมควร เนื่องจากจะเสียคะแนนจากฐานเดิมที่ควรเป็นของตัวเอง ไปไม่น้อยเลย และเป็นอุปสรรคในการแลนด์สไลด์
ล่าสุดมีข่าวจากฝ่ายความมั่นคง กำลังจับตาพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ตั้งขึ้นมาตามแผน “แตกแบงก์พัน” จากกติกาเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว คือ “พรรคเป็นธรรม” ที่มี นายปิติพงษ์ เต็มเจริญ เป็นหัวหน้าพรรค และมี “เสธ.แมว” พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ สมช. และสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ
แต่ความน่าแปลกของพรรคนี้ก็คือ เมื่อกติกาเลือกตั้งเปลี่ยนเป็นบัตร 2 ใบแล้ว ความจำเป็นของการ “แตกแบงก์พัน” จึงไม่มีอีกต่อไป แต่พรรคนี้กลับเคลื่อนไหวคึกคักขึ้นในระยะหลังๆ
เมื่อไม่นานมานี้ “พรรคเป็นธรรม” เพิ่งจัดประชุมใหญ่ และเปิดตัวกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยเลขาธิการพรรคที่เพิ่งรับตำแหน่ง คือ นายกัณวีร์ สืบแสง ซึ่งมีบทบาทแสดงทัศนะเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชน “คนเท่ากัน” อย่างชัดเจน ทั้งเรื่องการเมือง และปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย นายกัณวีร์ เคยเป็นเจ้าหน้าที่สมช. และเคยทำงาน ยูเอ็นเอชซีอาร์ หรือสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ด้วย
ในวันประชุมใหญ่พรรค ยังมีการเปิดตัว 6 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ และเคยเคลื่อนไหวขึ้นเวทีของกลุ่มราษฎร และกลุ่มสามนิ้ว หนึ่งในนั้น คือ นายสุไฮมี ดูละสะ อดีตประธานกลุ่มเปอร์มัส หรือ สหพันธ์นิสิต นักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี ซึ่งเป็นองค์กรที่ฝ่ายความมั่นคงจับตารวมอยู่ด้วย
กิจกรรมเปิดตัวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพฯ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกตัวเองว่ากลุ่ม “ปาตานี บารู” มีจำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายฮากิม พงตีกอ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายฮาฟิส ยาโกะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จ.นราธิวาส, นายมุสตารซีดีน วาบา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ปัตตานี, นายมูฮัมหมัดกัสดาฟี กูนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 จ.ปัตตานี, นายสุไฮมี ดูละสะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ปัตตานี และ นายซูพียัน ดารีอิโซ๊ะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.ยะลา
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยงานความมั่นคง วิเคราะห์ว่า จังหวะก้าวของพรรคเป็นธรรม อาจเป็นหนึ่งในแผน “สกัดก้าวไกล” ของเครือข่ายเพื่อไทยก็เป็นได้ ฉะนั้นต้องดูความเคลื่อนไหวหลังจากนี้ โดยเฉพาะการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่ความหวังของก้าวไกล เหมือนกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยวิธีการสกัด อาจไม่ถึงขั้นต้องชนะ แต่แค่ตัดแต้มก็ช่วยให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้ง่ายขึ้นแล้ว
@@ “พรรคลุงตู่” เปิดตัว 2 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปัตตานี
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 18 ม.ค.66 พรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดย นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร กรรมการบริหารพรรค ได้จัดกิจกรรมประชุมคัดเลือกตัวแทนมวลชนมารับตำแหน่งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ในเขต 2 จ.ปัตตานี โดยคัดเลือกจากสมาชิกพรรค ที่ศาลาเอนกประสงค์ บ้านบ่อทอง หมู่ 7 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มีผู้ได้รับการเสนอชื่อ จำนวน 5 คน เพื่อให้มวลชนจากพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ และ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ประมาณ 150 คน ยกมือโหวตคัดเลือก ซึ่งผลการโหวตได้ นายปองจิตร ยึดทิวา รับหน้าที่เป็นตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ ประจำเขต 2 จ.ปัตตานี ด้วยคะแนน 75 คะแนน
นอกจากนี้ทางพรรคได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปัตตานี จำนวน 2 คนอย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย ดร.ศิรวัชโชติ รัตนมาลา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.ปัตตานี และ นายไฟซอล อีสเฮาะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ปัตตานี
สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพิ่งจัดกิจกรรมเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เข้าร่วมงานกับพรรคอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 9 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ทำให้หลายคนขนานนามพรรคการเมืองนี้ว่า “พรรคลุงตู่” เพราะมีจุดยืนสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 1 สมัย
@@ ปชป.จัดผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ครบ 100%
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรค กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งปี 66 ว่า วันนี้ถือว่าพรรคได้เตรียมผู้สมัคร ส.ส.ไว้เยอะแล้ว โดยเฉพาะภาคใต้ซึ่งครบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนภาคเหนือก็ได้ประกาศผู้สมัครไปแล้ว 61 คนประมาณ 90-95 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ภาคอีสานเพิ่งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครไป 99 คนจาก 132 คน มั่นใจจะส่งครบทั้ง 400 เขต
สำหรับความคาดหวังในพื้นที่ภาคใต้ ฐานเสียงใหญ่ที่สุดของพรรค ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่แล้วได้มาเพียง 22 ที่นั่งจาก 50 ที่นั่ง ไม่ถึงร้อยละ 50 ทั้งๆ ที่ในอดีตเคยได้มากกว่าร้อยละ 85 นั้น ล่าสุด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรค ประกาศที่ จ.นครราชสีมา ว่า ตั้งเป้าได้ ส.ส.ภาคใต้เพิ่มขึ้นจากเดิม 1 เท่าตัว คือมากกว่า 40 คน