พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประธาน “มูลนิธิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” อดีต ผบ.ตร.และนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทำพิธีบวงสรวงเพื่อเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นการก่อสร้างอาคาร “มูลนิธิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง”
รองรับผู้ป่วยหลักโรงพยาบาลท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา มูลค่า 100 ล้านบาท
พล.ต.อ.สมยศ บอกว่า “อ.ท่าเรือ เป็นบ้านเกิดต้นตระกูลบรรพบุรุษ เมื่อประสบความสำเร็จในการรับราชการ และทางด้านธุรกิจในระดับหนึ่ง ซึ่งจริงๆไม่ได้เป็นเศรษฐี หรือร่ำรวยมากนัก มีฐานะพอดำเนินชีวิตอยู่ในสังคม ที่ดีระดับหนึ่ง แต่ตนสำนึกในคุณแผ่นดิน สำนึกถึงบ้านเกิด
แต่ฝันอยากเห็นประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเปรียบดุจญาติพี่น้อง มีสุขภาพอนามัยที่ดี มีสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานในการรักษาพยาบาล เทียบเท่าในเมืองแบบกรุงเทพมหานคร ซึ่งเงินส่วนหนึ่งมาจากกัลยาณมิตร ที่มีแนวคิดเห็นตรงกันช่วยกันบริจาคเข้า มูลนิธิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
เป็นที่มาของการรวบรวมผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคเพื่อทำการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยหลักของโรงพยาบาลท่าเรือ โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นหลักทำหน้าที่สะพานบุญเพื่อพี่น้องชาว อ.ท่าเรือ บ้านเกิด
ก่อนหน้า มูลนิธิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง สร้างโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้คือ โรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์ ที่ จ.ยะลา เนื่องจากเห็นเหตุรุนแรงในพื้นที่ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ครู และพี่น้องไทยมุสลิมได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นแนวคิดหากองทุนจัดสร้างโรงพยาบาลและเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย
พล.ต.อ.สมยศเข้ามอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลตำรวจอยู่หลายครั้ง
ล่าสุดมอบเงิน 10 ล้านบาท สมทบทุน มูลนิธิรามาธิบดีฯ สร้าง Hospitel จำนวน 350 ห้อง
ช่วยผู้ป่วยโควิด-19
พล.ต.อ.สมยศบอกว่าวันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ภาคภูมิใจ ที่ได้มีส่วนร่วม สร้างอาคารให้ รพ.ท่าเรือ เพื่อให้โรงพยาบาลจะได้ใช้เป็นสถานที่ทางการแพทย์ที่สะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงได้พัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่และยังเป็นบ้านเกิดของตนอีกด้วย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 รอบนี้ ทุกคนทราบดีว่ามีอันตรายมากถึงชีวิต จึงอยากให้พี่น้องประชาชนช่วยกัน รณรงค์ป้องกันตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
พล.ต.อ.สมยศบอกว่า อยากเห็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน รวมถึงหมั่นดูแลบุคคลที่เรารักอย่างใกล้ชิด อยู่บ้าน ไม่ออกไปในพื้นที่เสี่ยง เพื่อพวกเราจะได้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ ไปด้วยกันให้เร็วที่สุด
เป็นอีกส่วนความตั้งใจของมูลนิธิฯ และบุคคลพร้อมช่วยคนไทย.
“เพลิงพยัคฆ์”
[email protected]