ศบค.ยะลา สั่งงดละหมาดอีฎิ้ลฟิตรี งดรวมกลุ่มเลี้ยงอาหาร ห้ามเดินทางเยี่ยมญาติจังหวัดกลุ่มเสี่ยง ป้องกันโควิด-19 ระบาด ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2564 ศบค.ยะลา ได้ออกคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 จ.ยะลา ที่ 45/2564 ลว.7 พ.ค.2564 ลงนามโดยนายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา/ผกก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จ.ยะลา และนายสะมะแอ ฮารี ประธานกรรมการอิสลามประจำ จ.ยะลาเรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา ว่าด้วยแนวทางปฏิบัติในวันที่ 1 ของเดือนเซาวาล(อีฎิ้ลฟิตรี)ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1442
โดยให้งดละหมาดอีฎิ้ลฟิตรี ให้อิหม่าม คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดแจ้งสัปปุรุษ ให้ละหมาดที่บ้านในลักษณะรวมกันเป็นครอบครัว เฉพาะญาติพี่น้องเท่านั้น โดยไม่ต้องอ่านคุตบะห์ และเรื่องการรับซากาต หรือสิ่งของบริจาค ให้มัสยิดแต่งตั้งผู้ร่วมรับ จัดรับที่มัสยิดและบ้านของผู้ที่ได้รับการแต่งตั้ง ในการนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 11 พ.ค.นี้
พร้อมกันนี้ให้งดจัดกิจกรรมหรือรวมกลุ่มที่มีจำนวนมากในการจัดเลี้ยงอาหารต้อนรับวันฮารีรายอที่มีคนจำนวนกว่า 20 คน ห้ามเยี่ยมญาติในพื้นที่ที่จังหวัดประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยง ส่วนการเยี่ยมกุโบร์(สุสาน) ให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นายอมร ปรีดางกูร นายอำเภอยะหา เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับการดูดวงจันทร์ในวันอังคารที่ 11 พ.ค. เพื่อกำหนดวันที่ 1 เซาวาล (วันอีฎิลฟิตรี) ฮศ. 1442 ที่ห้องประชุมสัตตะภาคี อ.ยะหา มี ดร.ระเด่น สะมะแอ รองนายก อบจ.ยะลา นายอาแซ กาเซ้ง สาธารณสุขอำเภอยะหา หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยมีมติไม่อนุญาตบุคคลทั่วไปขึ้นไปดูดวงจันทร์ ที่ศาลาดูดวงจันทร์บนภูเขาปาเระ ซึ่งอยู่บริเวณหลัง รพ.สมเด็จพระยุพราชยะหา ยกเว้นผู้เกี่ยวข้องตามบัญชีรายชื่อที่กำหนดเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อป้องกัน และควบคุมโรคโควิด-19 ตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
ด้าน นพ.ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน/รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า การเปิดลงทะเบียนจองวัคซีนประชาชนใน 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง พบว่าคนที่เข้าจองวัคซีนทางแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 2 ของกลุ่มเป้าหมายโดยส่วนใหญ่ใน อ.เมืองยะลา และ อ.เบตง ส่วนอำเภออื่น ๆ ที่ไม่มีข้อมูลนั้น อาจเป็นเพราะยังเข้าไม่ถึงหรือไม่เข้าใจ
ดังนั้น สาธารณสุขจังหวัดยะลา จึงจัดทำแผนดำเนินการแผน คือ ให้ อสม.ในพื้นที่เป็นผู้ประสานงานหรืออาจใช้วิธีการโทรศัพท์มายังสาธารณสุขก็เป็นวิธีการหนึ่งที่จะสามารถจองวัคซีนได้เช่นกัน ซึ่งก็คิดว่าน่าจะเป็นแนวทางสำหรับอำเภอที่เหลือที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนจองวัคซีน
นพ.ชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนชาวจังหวัดยะลาได้มั่นใจว่า เราจะได้รับวัคซีนครบถ้วนทุกคนในเวลาที่เหมาะสมและเป็นไปตามแผนของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการ ซึ่งประชากรกลุ่มเป้าหมายของ จ.ยะลานั้น ทั้งจังหวัดอยู่ที่ประมาณ 3 แสนคน ได้เตรียมไว้ครบแล้ว แต่ทั้งนี้จะต้องเข้าถึงระบบหมอพร้อมด้วย
“การฉีดวัคซีนจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่จะทำให้ประชาชนชาวไทยมีภูมิคุ้มกันโรคโควิด -19 ได้ แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะยังมีตัวเลขให้เราได้เห็นไม่เว้นแต่ละวันก็ตาม แต่ก็ยังเชื่อว่าการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ที่รัฐบาลตั้งความหวังให้ประชาชนได้รับบริการนั้น จะสามารถช่วยสร้างความหวังให้คนไทยได้ก้าวผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” นพ.ชัยวัฒน์ กล่าว
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ที่ จ.ยะลา วันที่ 7 พ.ค. พบผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 5 ราย ใน อ.เมือง 2 ราย อ.รามัน 2 ราย และ อ.กรงปินัง 1 ราย สรุปมีผู้ป่วยสะสม 115 ราย รักษาใน รพ.91 ราย รักษาหาย 21 ราย และเสียชีวิตรวม 3 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจหาเชื้ออีกจำนวน 746 ราย