‘ยะลา’ คุมเข้มโควิดต่อเนื่อง พร้อมเตรียมสถานที่กักตัวรองรับแรงงานไทยกลับจากประเทศเพื่อนบ้าน

วันนี้ (27 ม.ค. 64) ที่ห้องศรียะลา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมกับ นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ร่วมแถลงข่าว ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิท 19 เพื่อติดตามสถานการณ์ มาตรการ และความก้าวหน้าวัคซีน

นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากสถานการณ์การการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังไม่พบว่ามีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ COVID-19 ในพื้นที่มีเพียง จากต่างประเทศซึ่งเป็นกลุ่มอดีตผู้ต้องขัง และแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ขณะนี้อยู่ระหว่างการกักตัวที่ศูนย์ กักตัวอำเภอเบตง ซึ่งจากการที่ประเทศมาเลเซียได้ขยายระยะเวลาให้แรงงานต่างชาติอยู่ในประเทศได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 คาดว่าในเดือน กุมภาพันธ์ – เมษายนนี้ จะมีแรงงานไทยเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียเข้ามาในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น จึงได้กำชับทุกหน่วยเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้น โดยเมื่อเดินทางมาถึงด่านอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ จะทำการตรวจ คัดกรอง และส่งตัวกลับมากักตัวที่ภูมิลำเนา โดยมีการดูแลตามมาตรการป้องกันโรคสูงสุด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง และหากผลการตรวจพบว่าติดเชื้อ ก็จะนำตัวเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ทุกอำเภอได้เตรียมชุดปฏิบัติการ รวมทั้งสถานที่ Local Quarantine ในการรองรับผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย สำหรับในพื้นที่ยะลาเองนั้น ซึ่งยังไม่พบผู้ติดเชื้อแต่อย่างไร ก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นว่ามีบุคคลต่างด้าว หลบหนีเข้ามากก็ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือ อสม. ประจำหมู่บ้านเข้าตรวจสอบ ในเบื้องต้น ขณะที่ในส่วนของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดสงขลาจะเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และในส่วนของกลุ่มความเสี่ยงต่ำจะดำเนินการฉีดวัคซีนในห้วงต่อไป

ด้าน นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า ขณะนี้ก็มีมาตราการอย่างเข้มงวดอยู่แล้วในการป้องกัน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ต่างจังหวัด ก็จะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน คอยติดตามวัดไข้ และขอความร่วมมือให้กักตัวอยู่ภายในบ้านก่อน 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางมากับขบวนรถไฟที่ 171 กรุงเทพฯ ปลายทาง สุไหงโก-ลก และมีผู้ติดเชื้อโควิท 19 ซึ่งเป็นคนพื้นที่อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาสนั้น ในส่วนของผู้ร่วมเดินทางที่เป็นคนยะลา เจ้าหน้าที่สามารถพบตัวทุกคนแล้ว และ อยู่ระหว่างการดำเนินการกักตัวเพื่อรอดูอาการ ส่วนการตรวจคัดกรอง ได้มีการตรวจคัดกรองในด้านเชิงรุก ซึ่งตรวจไปกว่า 2000 คน ยังไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ ส่วนความก้าวหน้าของการฉีดซีนป้องกันโรคโควิท 19 นั้น ในส่วนจังหวัดยะลา อย่างช้าก็คงจะเป็นเดือนพฤษภาคม 2564

สำหรับมาตรการป้องกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ยังคงเน้นย้ำมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยให้ยึดหลัก D-M-H-T-T ทั้งการเว้นระยะระหว่างกัน สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และสังเกตอาการ รวมทั้งการใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ เพื่อลดการแพร่ระบาด และสามารถป้องกันตนเองได้อีกทางหนึ่ง