เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ปัตตานี – คืบหน้ากรณีขุดลอกสระพื้นที่พรุชะเมา ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงวัวควายของชาวบ้าน ล่าสุด “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” นำคณะ ส.ส.ประชาชาติ ลงตรวจสอบพื้นที่ พบมีที่ดินของชาวบ้านที่มีเอกสาร ส.ค.1 จริง
วันนี้ (25 ต.ค.) กรณีที่มีชาวบ้านร้องเรียนการดำเนินโครงการขุดลอกสระน้ำขนาดใหญ่ 500 ไร่ ในบริเวณทุ่งพรุชะเมา รอยต่อกับพรุน้ำดำ ที่เป็นทุ่งเลี้ยงวัวควายของชาวบ้านนับพันตัว ต้องได้รับผลกระทบจากการขุดลอกสระน้ำดังกล่าวเป็นวงกว้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะพื้นที่ดังกล่าวบางส่วนเป็นที่ดินของชาวบ้านครอบครองเป็นที่ทำกิน มีเอกสารเป็น ส.ค.1 จึงเป็นเหตุให้แกนนำชาวบ้านต้องเข้ามาร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อพรรคประชาชาติ เพราะชาวบ้านไม่รู้จะไปพึ่งพาใครอีกแล้ว
ล่าสุด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้นำ ส.ส.พรรคประชาชาติ ทั้งใน จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา ลงพื้นที่พิสูจน์ปมพิพาทโครงการรัฐขุดสระ 500 ไร่ รุกที่ดินชาวบ้านน้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี พบเป็นโครงการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พื้นที่ท่าธง เจอตัวผู้รับผิดชอบโครงการ ยอมรับขุดช่องทางระบายน้ำโดยไม่ได้แจ้งชาวบ้านจริง แต่เรื่องยังไม่จบ เลขาฯ ประชาชาติ ชงเรื่องเข้า กมธ.กระจายอำนาจข้องใจโครงการใหญ่ไม่ผ่านท้องถิ่น
จากกรณีชาวบ้านหมู่ 3 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี นำโดย นางมาเรียม บีรู ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำดำ เข้าร้องทุกข์ต่อ “พรรคประชาชาติ” เพื่อคัดค้านโครงการของหน่วยงานรัฐที่นำเครื่องจักรกลหนักเข้าพื้นที่เพื่อขุดสระ 500 ไร่ บนที่ดินของชาวบ้านที่มีเอกสาร ส.ค.1 โดยมีการระบุว่าโครงการนี้เป็นของพื้นที่ ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับ ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี แต่กลับมีการรุกล้ำเข้ามาโดยไม่มีการแจ้งชาวบ้าน และไม่มีการทำประชาคมเพื่อสอบถามความคิดเห็น
โดยชาวบ้านเครียดหนักเพราะเกรงว่าจะสูญเสียที่ดินทำกิน ถึงขั้นป่วยเข้าโรงพยาบาล และขณะเข้าร้องเรียนก็ร่ำไห้ คร่ำครวญว่าอย่าว่าแต่ชาวบ้านจะไม่มีที่ดินทำกินเลย ขนาดวัวควายก็ยังจะไม่มีที่อยู่
ซึ่งก่อนหน้านี้ ชาวบ้านได้ไปร้องเรียนกับทาง อบต. นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่มีใครลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหา ต่อมาจึงเข้าร้องเรียนต่อพรรคประชาชาติ และมี ส.ส.ลงพื้นที่ตรวจสอบ ทราบเบื้องต้นว่าเป็นโครงการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้นำคณะ ส.ส.ของพรรค ทั้ง ส.ส.ปัตตานี และยะลา ลงพื้นที่พบปะผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลท่าธง (อบต.ท่าธง) อ.รามัน จ.ยะลา พร้อมนำคณะดูสภาพพื้นที่รอยต่อ เขต ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา กับพื้นที่หมู่ 3 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี โดยมี นางมาเรียม ประธานสภา อบต.น้ำดำ นำชาวบ้านไปร่วมให้การต้อนรับ และชี้จุดที่เป็นปัญหาตามที่ได้ร้องเรียน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนมาหลายวันแล้ว วันนี้ได้มาดูข้อเท็จจริง อยากจะเรียนกับทุกท่านว่า ทุกข์ของทุกท่านก็เป็นทุกข์ของพวกเรา โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคประชาชาติ เป็น ส.ส.ในพื้นที่ ถ้าประชาชนมีความทุกข์ เราต้องมาแก้ นี่คือหนึ่งตัวอย่างของปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งประเทศไทย ไม่ใช่ปัญหาของคนทุ่งยางแดง ไม่ใช่ปัญหาของคนท่าธงเท่านั้น แต่เป็นปัญหาประเทศไทย
“ความจริงเรื่องที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยของชาวบ้านมีจำนวนมากที่จะถูกที่ดินของรัฐไปทับซ้อน โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เวลาเขาประกาศเขตอุทยานฯ จะไปทับที่ชาวบ้าน ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาคนของ 3 จังหวัด แต่เป็นปัญหาใหญ่ของคนทั้งประเทศ”
พ.ต.อ.ทวี บอกอีกว่า พรรคประชาชาติ เห็นด้วยกับการพัฒนา แต่การพัฒนากับการทำลายจะต้องเป็นคนละเรื่อง ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน ไม่ใช่เป็นการพัฒนาที่ทำลาย เราจะเห็นที่ผ่านมาการพัฒนาเป็นการทำลาย และไม่ได้มีสภาซูรอ ไม่ได้มาฟังเสียงของประชาชน ไม่ได้ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เรื่องนี้จะนำเข้าคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมี นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ เป็นประธาน จากนั้นคณะกรรมาธิการฯ จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจง ซึ่งเราต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
“จากการที่ได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับทางรามัน บอกว่าไม่ใช่โครงการของท่าธง และไม่ได้เป็นโครงการของจังหวัด อันนี้เป็นโครงการจากส่วนกลาง เราต้องไปตรวจสอบ” เลขาธิการพรรคประชาชาติ ระบุ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวทิ้งท้ายว่า วันนี้อยากมาให้กำลังใจ และดีใจที่ได้มาเยี่ยม หลังจากนี้อาจลงพื้นที่ไปดูอีกหลายจุด คือถ้าความจริงปรากฏ ความชั่วร้ายก็จะหายไป
ด้านนายบือราเฮง สะนิ ที่แสดงตัวว่าเป็นผู้ควบคุมโครงการขุดสระ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการของ ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา เท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีการขุดรุกล้ำพื้นที่เลย แต่ที่ขุดตรงที่ชาวบ้าน ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ร้องเรียนเป็นการขุดช่องระบายน้ำ เป็นน้ำที่ค้างจากข้างบน ยอมรับว่าไม่ได้บอกชาวบ้านก่อน
“สมมติว่ามีคนไม่พอใจที่เราขุด เวลาทำเสร็จเราก็จะปิด ลูกวัวตายก็มาบอกได้ ผมยังอยู่ จริงๆ ได้คุยกับชาวบ้าน เพียงแต่ไม่ได้บอกว่าขุดทางระบายน้ำ”
โดยก่อนหน้าที่แกนนำพรรคประชาชาติจะลงพื้นที่ ปรากฏว่า นายซำซูดิง มะสะเห ประธานสภา อบต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา และนายสุริยา บุญพันธ์ นายอำเภอทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้ลงพื้นที่ไปก่อนแล้ว หลังจากมีการนำเสนอข่าวผ่านทางสื่อมวลชนบางแขนง
ประธานสภา อบต.ท่าธง กล่าวระหว่างลงพื้นที่ว่า โครงการขุดสระเป็นงบประมาณของหน่วยงานรัฐที่ลงมายัง ต.ท่าธง โดยการก่อสร้างมีแผนงาน และพิกัดเขตพื้นที่ชัดเจน ไม่ได้ล้ำเขตไปยังพื้นที่รอยต่อของ ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานีเลย ตนเองเป็นคนในพื้นที่ ช่วยดูแลโครงการนี้อยู่ด้วย ขอยืนยันถึงความชัดเจนของโครงการ และประโยชน์กับประชาชน ทั้งยังบอกว่าจะเชิญทั้งสองฝ่ายมาทำความเข้าใจ และตรวจพิกัดพื้นที่โครงการให้ชัดเจน
ขณะที่นายอำเภอทุ่งยางแดง กล่าวว่า ปัญหาของเรื่องนี้คือแนวเขตที่ไม่ชัดเจน แล้วมีโครงการขุดลอกของกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงต้องตรวจพิกัดให้ชัดเจน เพราะที่ดินของชาวบ้าน ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี มีเอกสาร ส.ค.1 และ ส.ค.2 จริง