- จนท.ทหาร ไม่ทราบสังกัด 3 นาย เข้ามาสอบถามข้อมูลผู้จัดกิจกรรมเล่นบอร์ดเกมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ปาตานี ‘Patani Colonial Territory’ ที่นิติฯ มช. เมื่อ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา อ้างเกมมีข้อมูลบิดเบือนประวัติศาสตร์ มีการกดดันให้เจ้าหน้าที่คณะเปิดภาพกล้องวงจรปิดในห้องจัดกิจกรรมให้เจ้าหน้าที่ทหารดู-ด้านอาจารย์ฝ่ายกิจการ นศ. ยืนยันไม่กระทบเสรีภาพทางวิชาการในคณะ-มีการจัดงานใหม่แน่นอน
- ด้านสื่อภาคใต้ ‘Wartani’ รายงานมี จนท.ชุดดำ ร่อนใบปลิวที่ จ.ยะลา โจมตีบอร์ดเกมดังกล่าวเผยแพร่ประวัติศาสตร์บิดเบือน สร้างความร้าวฉานในสังคม
28 ธ.ค. 2565 เว็บไซต์ ‘ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน’ รายงานวานนี้ (27 ธ.ค.) ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มนักศึกษาซึ่งเรียกตัวเองในนาม ‘นิติซ้าย’ จัดกิจกรรมเล่นบอร์ดเกมเพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์อาณาจักรสยาม และปาตานี ชื่อเกมว่า “Patani Colonial Territory” ที่ห้องเรียน LB1303 เมื่อ 26 ธ.ค. 2565 เวลา 15.00-18.00 น. พร้อมเชิญชวนนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ร่วมเล่นเกมและแลกเปลี่ยนความเห็น
ภาพเจ้าหน้าที่ทหาร 3 รายที่มาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อ 26 ธ.ค. 2565
อย่างไรก็ตาม ก่อนกิจกรรมเริ่มขึ้นเวลา 15.45 น. มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่ทราบสังกัดเข้ามาที่คณะนิติศาสตร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อสอบถามข้อมูลกิจกรรมเล่นบอร์ดเกมดังกล่าว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่มีการแสดงภาพบอร์ดเกมว่าเจ้าหน้าที่ภายในคณะนิติศาสตร์ เคยเห็นมาก่อนหรือไม่ จากนั้น เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมีความพยายามสอบถามรายชื่อสมาชิกกลุ่ม ‘นิติซ้าย’ ที่กำลังจัดเตรียมกิจกรรมอยู่ข้างในห้องเรียน แต่ไม่ปรากฏข้อมูลแน่ชัดว่า เจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลสมาชิกกลุ่มดังกล่าวไปหรือไม่ รวมถึงมีคำถามในลักษณะว่า มีนักศึกษาหรือประชาชนจากสามจังหวัดชายแดนใต้เข้าร่วมกิจกรรมด้วยหรือไม่
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานต่อว่า เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบรายดังกล่าวมีการขอดูข้อมูลกล้องวงจรปิดของคณะนิติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าว และได้บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดภายในคณะ
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นกลุ่ม “นิติซ้าย” ได้ประกาศยกเลิกการจัดกิจกรรม เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุและจุดประสงค์การเข้ามาสอบถามข้อมูลของเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอย่างแน่ชัด อีกทั้งเหตุการณ์ดังกล่าวยังได้สร้างความกังวลต่อเจ้าหน้าที่ภายในคณะนิติศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้ใช้สถานที่
อาจารย์นิติฯ เผยเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร แสดงตัว-สังกัดชัดเจน
หลังเกิดเหตุการณ์ ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กฤษณ์พชร โสมณวัตร อาจารย์นิติศาสตร์ และผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งอาจารย์นิติฯ เผยว่า เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 3 ราย โดยมีการแสดงตัวและสังกัดอย่างชัดเจน แต่ทางเจ้าหน้าที่คณะไม่ได้บันทึกข้อมูลไว้ว่ามาจากสังกัดใด
เข้ามาโดยพลการ ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า-กดดันเจ้าหน้าที่
อาจารย์นิติฯ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ทหาร 3 คนเข้ามาที่คณะฯ เป็นการเข้ามาโดยพลการ ไม่มีการนัดหมายล่วงหน้า และพยายามเข้ามาถามข้อมูลและขอเจ้าหน้าที่คณะขึ้นไปถ่ายภาพบนห้องเรียนที่ใช้จัดกิจกรรม แต่ว่าทางเจ้าหน้าที่คณะยืนยันปฏิเสธ เนื่องจากไม่มีคำยินยอมจากผู้จัด ไม่มีการกระทำผิดกฎหมายซึ่งหน้า และเป็นเหตุผลด้านความปลอดภัยที่ไม่สามารถให้บุคคลภายนอกขึ้นอาคารเรียน
อย่างไรก็ตาม หลังเจ้าหน้าที่คณะปฏิเสธไม่ให้ฝ่ายความมั่นคงขึ้นไปถ่ายภาพหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ทหารจึงเสนอขอดูกล้องวงจรปิดในห้องเรียนที่ใช้จัดกิจกรรมแทน ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารพยายามกดดันอยู่นาน เจ้าหน้าที่คณะจึงยอมอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปดูและบันทึกภาพกล้องวงจรปิด
หลังจากนั้น ผู้จัดกิจกรรมจึงประกาศยุติกิจกรรมเล่นบอร์ดเกม และเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมดแยกย้ายออกจากพื้นที่เวลาประมาณ 17.00 น.
ทั้งนี้ อาจารย์กฤษณ์พชร ระบุด้วยว่า เหตุที่ไม่มีอาจารย์เข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ทหารวันนั้น เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงปิดงานก่อนสิ้นปี ทำให้คณาจารย์ที่ทราบข้อมูลกิจกรรมต้องออกไปทำงานนอกคณะ และไม่ได้อยู่ที่คณะช่วงที่เจ้าหน้าที่ทหารมาหา ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการที่คณะ ซึ่งไม่ได้ทราบข้อเท็จจริงเรื่องกิจกรรมเล่นบอร์ดเกมทั้งหมด ต้องคุยกับเจ้าหน้าที่ทหารโดยตรง
นอกจากนี้ ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะนิติฯ มองว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ทหาร ถือเป็นการคุกคามเจ้าหน้าที่คณะโดยตรง เนื่องจากหนึ่งเจ้าหน้าที่คณะไม่ได้ทราบข้อเท็จจริงของกิจกรรมทั้งหมด การที่เจ้าหน้าที่ทหารไปสื่อสารโดยตรง และไม่ผ่านระบบงานที่มันถูกต้อง ทำให้เจ้าหน้าที่รู้สึกไม่มั่นคง และไม่ปลอดภัย และเจ้าหน้าที่คณะบางคนรู้สึกว่าถูกบังคับให้ต้องเปิดกล้อง และบอกข้อมูล
‘จัดใหม่ และใหญ่กว่าเดิม’ ยืนยันหลักเสรีภาพทางวิชาการในรั้ว มช.
อาจารย์กฤษณ์พชร กล่าวว่า การยุติกิจกรรมเล่นบอร์ดเกมปาตานีไม่ใช่การปิดกั้นการทำกิจกรรหรือเสรีภาพทางวิชาการของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย เป็นเพียงการชะลอการจัดกิจกรรมเท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถประเมินผลกระทบและความเสี่ยงหลังจากมีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเข้ามาที่คณะ
พร้อมกันนี้ อาจารย์นิติฯ ยืนยันว่าจะมีการจัดกิจกรรมเล่นบอร์ดเกม ‘Patani Colonial Territory’ อีกครั้งอย่างแน่นอน โดยรูปแบบเป็นงานเชิงวิชาการ และเป็นสาธารณะเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมได้
“เรายืนยันในหลักการว่าเรามีเสรีภาพในการพูด ถึงแม้จะพูด จะเล่น ในสิ่งที่อีกฝ่ายที่เจ้าหน้าที่ทหารไม่เห็นด้วยกับข้อเท็จจริงก็ตาม การถกเถียงในเชิงประวัติศาสตร์ว่าอะไรจริงไม่จริง มันเป็นธรรมชาติของวิชาการในการศึกษาอดีต ก็คือเราก็จะยืนยันเรื่องนี้เราจะจัดอีก จากเดิมที่เป็นงานนักศึกษาเล็กๆ คุยกัน ลองเล่นกัน เรียนรู้ไม่กี่คน เราจะเชิญแขกมามากขึ้น เราจะทำให้มันเป็นงานวิชาการ และงานทางสาธารณะมากกว่าเดิม เพื่อยืนยันว่า เราไม่ขัดขวาง เราไม่ปิดกั้นการทำกิจกรรมของนักศึกษา” กฤษณ์พชร ระบุ
สำหรับบอร์ดเกมส์ “Patani Colonial Territory” จัดทำและออกแบบโดยกลุ่ม “จะจิลุบอร์ดเกม (Chachiluk Board game)” เป็นโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก “Common School มูลนิธิคณะก้าวหน้า” โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งต่อประวัติศาสตร์ช่วงการผนวก “ราชอาณาจักรปาตานี” เข้ากับ “ราชอาณาจักรสยาม”
นับตั้งแต่บอร์ดเกมส์ดังกล่าวถูกนำออกมาเล่น ได้เกิดเหตุการณ์คุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่จังหวัดยะลา โดยการเข้ายึดบอร์ดเกมส์อ้างว่าเพื่อนำไปตรวจสอบหาความผิดตามกฎหมาย ซึ่งการตรวจค้นและการยึดดังกล่าวไม่มีการแสดงหมายศาลหรือเอกสารราชการใดๆ อีกทั้งยังมีรายงานเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ชุดดำไม่ทราบสังกัดได้ทำการแจกจ่ายใบปลิวภายในพื้นที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา โดยมีหัวข้อว่า ข้อมูลสำหรับชี้แจงสร้างความเข้าใจในเรื่องการ์ดเกมส์ “Patani Colonial Territory”
จนท.ไม่ทราบฝ่าย แจกใบปลิวโจมตีบอร์ดเกม
เมื่อ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ ‘Wartani’ ซึ่งเป็นสื่อภาคใต้ รายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ชุดดำไม่ทราบสังกัดแจกใบปลิวในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยใช้พื้นที่หน้าบริเวณการไฟฟ้า อ.บังนังสตา จ.ยะลา เป็นจุดแจกใบปลิว ลักษณะใบปลิว เป็นกระดาษขนาด A4 พิมพ์ข้อความ พร้อมแนบภาพประกอบ โดยใบปลิวมีรายละเอียดดังนี้
รายละเอียดใบปลิว
ข้อมูลสำหรับชี้แจงสร้างความเข้าใจในเรื่องการ์ดเกมส์ “Patani Colonial Territory”
จากสถานการณ์ปัจจุบัน การ์ดเกมส์ Patani Colonial Teritory กำลังแพร่หลาย ซึ่งเป็นเกมส์ที่นำประวัติศาสตร์ที่ไม่ถูกต้อง มาเผยแพร่ในรูปแบบของ การ์ดเกมส์ Patani Colonial Territory ทำให้เกิดความแตกแยก เกลียดชังภายในชุมชน และปลูกฝังความรุนแรงให้กับเยาวชน ประชาชน ในพื้นที่ จชต. จากการปรึกษาหารือกับผู้นำศาสนา นักวิชาการ วิทยากรศาสนา ในพื้นที่ จชต. เห็นว่าเกมส์นี้ขัดต่อหลักศาสนาในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1.เป็นการ์ดเกมส์ที่เป็นการเล่นในลักษณะการใช้ไพ่ถึงแม้จะไม่มีสิ่งแลกเปลี่ยนก็ตาม ซึ่งขัดต่อหลักศาสนา
ความว่า “แท้จริงสุราและการพนันและแท่นหินสำหรับเชือดสัตว์บูชายัญ และการเสี่ยงติ้วนั้นเป็นสิ่งโสมมอันเกิดจากการกระทำของชัยฏอน ดังนั้นพวกเจ้าจงห่างไกลจากมันเสียเพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับความสำเร็จ (อัล-มาอิดะฮ์ : 90)”
ทั้งนี้ ชัยค์ อิบนุบาช รอหิมายุลลอฮ์ กล่าวว่า: “มันเป็นหนึ่งในเครื่องละเล่นที่ไร้สาระ ไพ่ที่มีรูปภาพต่างๆ เป็นเครื่องละเล่นที่ไร้สาระ ถึงแม้มันจะไม่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง มันก็เป็นสิ่งชั่วและเป็นเครื่องเล่นที่ไร้สาระอยู่ดี”
2.เป็นการ์ดเกมส์ที่การสร้างความเข้าใจผิดในกลุ่มยาวชน และประชาชนในพื้นที่ จขต. ซึ่งนำเป็นการบ่มเพาะความเกลียดชังและสะสมความแตกแยก ตลอดจนสร้างความร้าวฉานในสังคมอย่างไม่รู้จักจบสิ้น
ความว่า “ทุกครั้งที่พวกเขาจุดไฟขึ้นเพื่อทำสงคราม อัลลอฮ์ก็ทรงดับไฟนั้นเสีย และพวกเขาเพียรพยายามบ่อนทำลายในผืนแผ่นดิน และอัลลอฮ์นั้น ไม่ทรงชอบผู้บอนทำลายทั้งหลาย (อัล-มาอิดะ : 64)”
3.เป็นการ์ดเกมส์ที่เล่าความเท็จ บิดเบือน เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ปัตตานี
ความว่า : “โอ้บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ทั้งหลาย เพราะเหตุใดเล่าพวกเจ้าจึงบิดเบือนความจริงด้วยสิ่งเท็จ(ที่นักปราชญ์ของพวกเขาได้กุขึ้น) ปกปิดความจริงไว้ ทั้งๆ ที่พวกเจ้าก็รู้ดีอยู่” (อาลิ อิมรอน : อายะฮ. 71)
จัดทำโดย กองสันติวิธี ศูนย์สันติวิธี
ใบปลิวโจมตีบอร์ดเกม Patani Colonial Territory (ที่มา: Wartani)