เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 5 ส.ค.64 ที่รัฐสภา นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท พร้อมด้วยนายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกมธ.การกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลงข่าว ถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยนายโกวิทย์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อร้องเรียนของนายอัลอามีน มะแต ชาวจังหวัดยะลา เกี่ยวกับทรัพย์สินที่นำไปจำนำกับท้องถิ่น คิดว่ากรณีดังกล่าวน่าจะมีปัญหาในท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่เฉพาะที่จังหวัดยะลา ซึ่งการบังคับใช้ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการจัดการสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (จ.ส.ท ) ว่าด้วยการจำหน่ายทรัพย์หลุดจำนำของสถานธนานุบาลของเทศบาล ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด แม้จะมีการขยายเวลาการจำนำไปแล้ว 6 เดือนไปแล้ว แต่การแพร่ระบาดก็ยังไม่หยุด กมธ.จึงมีมติให้ทำหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รวมถึงอธิบดีกรมส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่ารัฐบาลจะช่วยเยียวยาอย่างไร
นายโกวิทย์ กล่าวว่า กมธ.จึงขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาเร่งด่วนคือ 1. เพิ่มมาตรการขยายระยะเวลาการไถ่ถอนทรัพย์จำนำให้ครอบคลุมระยะเวลาการแพร่
ระบาดของโควิด 2.เลื่อนหรือชะลอการจำหน่ายทรัพย์หลุดจำนำในระหว่างระยะเวลาการแพร่ระบาด 3.กำหนดราคาในการซื้อคืนทรัพย์ที่หลุดจำนำให้แก่ผู้จำนำในราคาที่เป็นธรรมและเหมาะสม เช่น การกำหนดราคาซื้อคืนโดยคิดจากราคาทรัพย์ที่จำนำบวกกับดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นระหว่างการรับจำนำ จนกระทั่งถึงวันซื้อคืนทรัพย์
4.ควรมีแนวทางแก้ไขเยียวยากรณีที่ทรัพย์หลุดจำนำตามหนังสือที่ มท.ลงวันที่ 24 ม.ค.64 และ5.แก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและทันต่อสถานการณ์ในการช่วยเหลือประชาชน รวมถึงควรมีการพิจารณาการจัดซื้ออุปกรณ์ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ของ อปท. และแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้อปท.สามารถจัดซื้อชุดตรวจ ATK เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
ด้านนายสฤษฎ์พงษ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ประชาชนมาแออัดกันที่โรงพยาบาลหรือสถานที่ตรวจคัดกรอง แต่อยากให้อยู่ในบ้าน แล้วให้อปท.ซื้อชุด ATK แจกผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรืออสม. ไปบริการถึงบ้าน ตนไม่เห็นด้วยกับการตั้งด่านในพื้นที่ ที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ตรวจคัดกรอง ซึ่งปรากฏว่าเครื่องวัดอุณหภูมิ ชุดป้องกัน PPE ก็ไม่มี ซึ่งเสี่ยงมากต่อการติดโควิด-19 จึงอยากให้จังหวัดที่ตั้งด่าน หากอุปกรณ์เครื่องมือไม่พร้อมก็อย่าไปทำเลย การแก้ปัญหาไม่ควรรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง ควรให้ อปท. องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) และกำนันผู้ใหญ่บ้าน จับมือประสานกันต่อสู้เรื่องนี้ และให้อปท.ใช้เงินงบประมาณของตัวเองซื้อวัคซีนที่มีคุณภาพที่ประชาชนเชื่อมั่นและ ATK โดยรัฐบาลจะต้องชดเชยเงินที่เบิกมาใช้ก่อน ซึ่งภายในไม่เกิน 2 เดือนตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลงทันที และจะควบคุมสถานการณ์ได้ หากรัฐบาลไม่รีบแก้ไขก็จะส่งผลเรื่องปัญหาเศรษฐกิจในภาพรวม ตนทำนายว่าเงินกู้ 3.1 ล้านล้านบาทและ 7 แสนล้านบาทไม่เพียงพอ ในอนาคตรัฐบาลจะต้องกู้เงินทะลุเพดานระเบียบการเงินการคลังแน่นอน