น่าเสียดาย
ประเด็นสำคัญในการลงพื้นที่ยะลา-ปัตตานี ของนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อตรวจราชการและขับเคลื่อนโครงการพัฒนากลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถูกสื่อมวลชนบางกลุ่ม สื่อออนไลน์ และกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม พยายามบิดเบือน กลบเกลื่อน ด้อยค่า
ด้วยการหาเรื่องตัดตอนเอาคำแนะนำให้ชาวบ้านเลี้ยงไก่บ้าง การคุยกับปูบ้าง นำขึ้นมาล้อเลียน เสียดสี ขยายความเข้ารกเข้าพง แถมยังด่าว่านายกฯ เสียๆ หายๆ
1. เรื่องการเลี้ยงไก่ในพื้นที่ชนบท เพื่อแก้ปัญหาความยากจน
ถ้ามีสติปัญญาตั้งใจจริง ย่อมจะหาความรู้ไม่ยากเลย เพราะมีกรณีศึกษามากมาย ทั้งปราชญ์ชาวบ้านในไทย มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ หรือแม้แต่บิลเกตส์ มหาเศรษฐีชื่อดังระดับโลก ยังเคยแนะนำไว้อย่างเป็นกิจจะลักษณะ เป็นรูปธรรม เกี่ยวกับการเลี้ยงไก่แก้จน
บิลเกตส์เคยเขียนลงบล็อกส่วนตัว แล้วสื่อระดับโลกมากมายก็นำเสนอต่อเมื่อหลายปีมาแล้ว
บอกว่า การเลี้ยงไก่ เป็นแนวทางการแก้ปัญหาความยากจน จากการศึกษาและวิเคราะห์ชีวิตผู้คนที่เผชิญปัญหาความอดอยากในแถบแอฟริกา
“1.ดูแลง่ายและมีค่าใช้จ่ายไม่มาก-Bill Gates ให้เหตุผลว่า ไก่เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายและมีค่าใช้จ่ายไม่มากในการดูแล ไก่กินอะไรก็ได้ที่อยู่บนพื้น(แต่หากคุณให้อาหารที่ดี พวกมันก็จะโตเร็วขึ้น) และเมื่อไก่ที่เลี้ยงเพิ่มจำนวน ก็แค่ทำกรงเพิ่มขึ้นตามจำนวน จะทำจากไม้หรือลวดธรรมดาๆ ก็ได้ และวัคซีนของไก่ก็มีราคาถูกมาก
2.เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าอย่างที่สุด– การเลี้ยงไก่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพียงแค่เริ่มต้นจากแม่ไก่เพียง 5 ตัว และไก่พ่อพันธุ์ 1 ตัวภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ก็สามารถเพิ่มจำนวนไก่ได้ถึง 40 ตัว
3.ไข่ไก่คือสุดยอด และคือทางออกของโรคขาดสารอาหาร-ไข่ไก่ซึ่งมีโปรตีนและสารอาหารจำนวนมาก ก็สามารถช่วยเหลือเด็กๆ จากโรคขาดสารอาหารได้ และหากบางครอบครัวสามารถบริหารจัดการได้ดี ก็ปล่อยให้ไข่ฟักออกมา เลี้ยงไก่ให้โตแล้วนำไปขาย จากนั้นจึงนำเงินที่ได้ไปซื้ออาหารที่มีประโยชน์อย่างอื่นให้หลากหลายต่อไป” – (https://www.flagfrog.com/bill-gates-chicken-super-food/)
2. คุยกับปู เลี้ยงปู
ในการลงพื้นที่ปัตตานี นายกฯ พบปะสมาชิกกลุ่มเลี้ยงปูทะเล อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ภายใต้นโยบายขับเคลื่อนจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็น “เมืองแห่งปูทะเลโลก” ติดตามความก้าวหน้าการส่งเสริมการเลี้ยงปูทะเล ณ ศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูทะเลบ้านโต๊ะโสม ต.บางปู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี มอบลูกพันธุ์ปูให้แก่สมาชิกกลุ่มเลี้ยงปูทะเล และมอบพันธุ์ไม้โกงกาง เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลลูกปูในพื้นที่ให้แก่สมาชิกกลุ่มท่องเที่ยวชุมชน
“ดีใจได้เห็นรอยยิ้มของประชาชน ขอให้ทุกคนได้นำศักยภาพที่มีอยู่โดยเฉพาะด้านการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่กับการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน รัฐบาลพร้อมขับเคลื่อนโครงการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็น “เมืองแห่งปูทะเลโลก” เชื่อมโยงไปสู่ห่วงโซ่ด้านการท่องเที่ยวที่สวยงาม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มากขึ้น” – นายกฯ พลเอกประยุทธ์กล่าว
นายกฯ ย้ำว่า รัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาความยากจนรายครัวเรือน และปรับให้ตรงกับความต้องการของประชาชน และสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ อย่างเป็นระบบครบวงจรตั้งแต่กระบวนการผลิต แปรรูป การจำหน่ายและการตลาด
3. ใหญ่กว่าเลี้ยงไก่
การแนะนำชาวบ้านเลี้ยงไก่ ไม่เรื่องผิดแปลกอะไรเลย ทำได้จริง เกิดผลรูปธรรม จับต้องได้
ไม่ใช่เรื่องชาวคอนโดฯใน กทม. จะออกมาโวยวายว่าตนเองเลี้ยงไม่ได้ (เพราะนายกฯ นะชาวบ้านในต่างจังหวัดที่ปลูกปาล์ม สวนยาง ทำเกษตรอื่นๆ เลี้ยงไก่เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว)
แต่ประเด็นสำคัญกว่านั้น ในการพัฒนาและปัญหาความยากจนในสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่นายกฯ ลงไปขับเคลื่อนครั้งนี้คืออะไร? นายกฯ ลุงตู่ ได้เขียนไว้ใน เพจไทยคู่ฟ้า ชัดเจนว่า
“วันนี้นับเป็นโอกาสอันดี ที่ผมได้ลงพื้นที่จังหวัดยะลาและปัตตานี เพื่อตรวจราชการและขับเคลื่อนโครงการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ที่ประกอบด้วย จังหวัดสงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งหากใครได้มาเยือนแล้ว จะเห็นตรงกันกับผมว่าเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพในตัวเองอันน่าทึ่ง ทั้งพหุวัฒนธรรมอันหลากหลายและเข้มแข็งเป็นอัตลักษณ์ ทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และเศรษฐกิจท้องถิ่นที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้สามารถสร้างโครงการต้นแบบและมูลค่าสูงได้จำนวนมาก เช่น
1. โครงการพัฒนาและส่งเสริมการเพาะเลี้ยงปูทะเลให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดใหม่ เพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็น “เมืองปูทะเลโลก”
2. โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน
3. โครงการธนาคารอาหารปลอดภัยชุมชนต้นแบบ
4. โครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล
5. โครงการเมืองแห่งผลไม้แบบครบวงจร (Fruits Valley)
เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวนั้นประสบความสำเร็จให้มากที่สุด รัฐบาลจึงได้อนุมัติแผนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐานที่จะมารองรับการเจริญเติบโตและการขนส่งขนาดใหญ่ ตั้งแต่ท่าเรือสินค้าชายฝั่งปัตตานี ท่าอากาศยานเบตง รถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก สะพานข้ามแม่น้ำบางนรา รวมทั้งการสร้างทางเลี่ยงเมืองและขยายทางหลวงแผ่นดินเพิ่มเป็น 4 ช่องจราจร เพื่อเชื่อมโยงแหล่งผลิตกับตลาดนอกภูมิภาค ตลาดชายแดน ตลาดโลก ตลาดออนไลน์ รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ด้วยการแปรรูปผลิตภัณฑ์ หรือยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม ซึ่งเป้าหมายปลายทางที่สำคัญก็คือ การพัฒนาท้องถิ่น เติมเต็มศักยภาพของทรัพยากรบุคคลและธรรมชาติ ทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
โดยโครงการสำคัญที่ได้รับการปักหมุดหมายให้เป็นต้นแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ประกอบด้วย
1. อ.หนองจิก จ.ปัตตานี : “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมเกษตร”
2. อ.เบตง จ.ยะลา : “เมืองต้นแบบการพัฒนาที่พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน”
3. อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส : “เมืองต้นแบบการค้าชายแดนระหว่างประเทศ”
ซึ่งโครงการเมืองต้นแบบทั้ง 3 เมืองนี้ จะมีความเชื่อมโยงโดยตรง กับแผนงานการพัฒนา “เขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย” (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle : IMT – GT)…”
น่าสงสัยว่า สังคมไทยจะยอมให้สื่อเสี้ยม ตัดตอน ล้อเลียน เสียดสี ขยายความเข้ารกเข้าพง เพื่อเตะตัดขาทางการเมือง ปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง ดิสเครดิตรัฐบาล เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของบางกลุ่มต่อไปอย่างนี้อีกนานแค่ไหน