การติดเชื้อโควิด-19 ของผู้ต้องขังแดน 6 ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ซึ่งมีผู้ต้องขัง 1,600 คน พันตำรวจโทวรชัย อารักษ์รัฐ ผู้บัญชาการเรือนจำ เปิดเผยว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อแล้ว 396 คน และจากสภาพแวดล้อมในห้องขังที่ค่อนข้างแออัด นักระบาดวิทยาก็คาดการณ์ว่าจะทำให้ผู้ต้องขังทั้งหมด ติดเชื้อตามไปด้วย ซึ่งทางเรือนจำได้ใช้อาคารฝึกวิชาชีพแดน 6 เป็นสถานที่กักตัว และรักษาผู้ที่ติดเชื้อด้วยยาฟาวิพิราเวียร์ และฟ้าทะลายโจร มีการแยกตัวผู้ติดเชื้อ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และเสี่ยงต่ำออกจากกัน และเร่งตรวจคัดกรองเจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขังในแดนอื่นทั้งหมด ซึ่งนอกจากผู้ต้องขังในแดน 6 แล้ว ยังไม่พบเจ้าหน้าที่ หรือผู้ต้องขังแดนอื่นติดเชื้อ ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดภายในจังหวัด ล่าสุด ทางจังหวัดได้สั่งปิดหมู่บ้านอีก 10 แห่ง ที่เป็นพื้นที่เสี่ยง จากเดิมที่ปิดไปแล้ว 27 หมู่บ้าน ใน 20 อำเภอ
ส่วนปัญหาการฉีดวัคซีนไม่ได้ตามเป้าหมายของจังหวัดปัตตานี ทำให้การควบคุมการระบาดทำได้ยาก ปัญหามาจากความเชื่อของคนในท้องถิ่น ทางจังหวัดได้หารือกับผู้นำศาสนา และผู้นำชุมชน เพื่อทำความเข้าใจ และความจำเป็นเรื่องการฉีดวัคซีน โดยได้ขอให้ผู้นำศาสนาเป็นกำลังหลักในการลงไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน และเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรในพื้นที่ ส่วนเรื่องที่มีผู้ติดเชื้อแต่กลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ เนื่องจากไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ ทำให้การระบาดเป็นวงกว้าง สาธารณสุขจังหวัดได้เร่งลงไปตรวจ ATK เชิงรุก เพื่อแยกผู้ติดเชื้อ และไม่ติดเชื้อออกจากกัน
เช่นเดียวกับที่จังหวัดยะลา ผู้นำศาสนา บัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ ศอ.บต. ออกรณรงค์ให้ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน บ้านบุดี ในเขตอำเภอเมืองยะลา ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เข้าใจว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไม่ผิดหลักศาสนา หลังจากที่จังหวัดยะลาเป็น 1 ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังมียอดผู้ติดเชื้อสูง