“อนุทิน” ลงพื้นที่สงขลาเยี่ยม รพ.สนามในค่ายทหาร ด้านผู้ว่าฯยะลาแจงมาตรการ “ไม่ฉีดวัคซีนห้ามเข้า” เป็นการขอความร่วมมือ ขณะที่ สสจ.เผยมีไฟเซอร์ 1.2 แสนโดสพร้อมฉีดประชาชน ด้านเทศบาลโคกโพธิ์จัดประเพณีชักพระ งดงานรื่นเริง – งดขายของ ส่วนยอดติดเชื้อใหม่ชายแดนใต้ 1,948 ราย ดับ 6 ศพ
วันที่ 22 ต.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ จ.สงขลา ยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง จนทำทั้ง 4 จังหวัดชายแดนใต้ยังติดอยู่ใน 10 อันดับของจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประเทศ
จากข้อมูลของทาง ศบค. พบว่า จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 676 ราย จากอันดับ 4 ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ตามมาด้วย จ.ยะลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 432 ราย จากอันดับ 2 ลงมาอันดับ 4 ส่วน จ.ปัตตานี มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 422 ราย ยังอยู่อันดับ 5 อีกวัน และ จ.นราธิวาส ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 306 ราย จากอันดับ 6 ลงมาอันดับ 10
@@ชายแดนใต้ ติดเชื้อใหม่รวม 1,948 ราย เสียชีวิต 6 ศพ
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 1,948 ราย และเสียชีวิตรวม 6 ราย แยกตามจังหวัดได้ดังนี้
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 693 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 42,827 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 42,804 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 5,402 ราย รักษาหายแล้ว 37,249 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 176 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 4,098 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 10,470 ราย, อ.เมืองสงขลา 5,891 ราย, อ.จะนะ 4,823 ราย, อ.สิงหนคร 4,224 ราย, อ.สะเดา 3,442 ราย, อ.เทพา 2,761 ราย, อ.สะบ้าย้อย 2,639 ราย, อ.รัตภูมิ 2,378 ราย, อ.นาทวี 978 ราย, อ.บางกล่ำ 903 ราย, อ.ระโนด 702 ราย, สทิงพระ 635 ราย, ควนเนียง 489 ราย, อ.นาหม่อม 452 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 291 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 55 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,161 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 510 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 432 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 37,271 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 7,674 ราย รักษาหายแล้ว 29,350 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 247 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 15 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 13,389 ราย, อ.กรงปินัง 2,322 ราย, อ.เบตง 3,182 ราย, อ.รามัน 5,041 ราย, อ.บันนังสตา 5,970 ราย, อ.กาบัง 990 ราย, อ.ธารโต 2,142 ราย และ อ.ยะหา 4,235 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 7,674 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 199 ราย, โรงพยาบาลเบตง 163 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 529 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 142 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 805 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 130 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 412 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 310 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 185 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 78 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 231 ราย, โรงพยาบาลสนามกาบัง 53 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 43 ราย, Hospitel ( 2 แห่ง ) 136 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 3,061 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 1,051 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 135 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 518 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 33,060 ราย รักษาหายแล้ว 19,686 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 354 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 198 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 440 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,425 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 611 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 1 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 49 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 177 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 130 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 13 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 12 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 217 ราย และ Home Isolation 1,266 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 7,084 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,554 ราย, อ.ไม้แก่น 243 ราย, อ.ยะหริ่ง 706 ราย, อ.หนองจิก 588 ราย, อ.โคกโพธิ์ 449 ราย, อ.สายบุรี 848 ราย, อ.แม่ลาน 84 ราย, อ.ยะรัง 606 ราย, อ.ปะนาเระ 194 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 322 ราย, อ.มายอ 830 ราย และ อ.กะพ้อ 339 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 306 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 101 ราย, อ.ยี่งอ 29 ราย, อ.จะแนะ 16 ราย, อ.แว้ง 40 ราย, อ.สุคิริน 1 ราย, อ.รือเสาะ 25 ราย, อ.บาเจาะ 66 ราย, อ.ระแงะ 7 ราย, อ.ศรีสาคร 14 ราย, อ.เจาะไอร้อง 2 ราย, อ.สุไหงปาดี 2 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 3 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 34,208 ราย รักษาหายสะสม 30,308 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 362 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 6,943 ราย, อ.ระแงะ 3,912 ราย, อ.รือเสาะ 1,874 ราย, อ.บาเจาะ 2,714 ราย, อ.จะแนะ 1,367 ราย, อ.ยี่งอ 2,618 ราย, อ.ตากใบ 2,552 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 2,613 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,936 ราย, อ.ศรีสาคร 1,889 ราย, อ.แว้ง 2,011 ราย, อ.สุคิริน 913 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,866 ราย
@@ “อนุทิน” ลงพื้นที่สงขลาเยี่ยม รพ.สนามในค่ายทหาร
วันที่ 22 ต.ค.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตลอดจนผู้ป่วยโรงพยาบาลสนามภายในหน่วยทหาร ที่โรงพยาบาลสนามค่ายมหาจักรีสิรินธร อ.นาทวี และโรงพยาบาลสนามค่ายลพบุรีราเมศวร์ กรมสนับสนุนกองพลทหารราบที่ 15 อ.เทพา จ.สงขลา ที่จัดตั้งขึ้นรองรับผู้ป่วยติดเชื้อเข้าทำการรักษา แบ่งเบาภาระให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งยังเป็นการระงับยับยั้งการแพร่กระจายของโรคไปในวงกว้าง และทำให้ผู้ป่วยได้เข้าสู่ระบบการรักษาอย่างครอบคลุมทั่วถึงมากขึ้น
หลังจากนั้นจึงได้เดินทางต่อไปยัง จุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 โรงพยาบาลเทพา อ.เทพา จ.สงขลา โดยนายอนุทิน ได้พูดคุยสร้างความเข้าใจ ความสำคัญในการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนและยืนยันว่า รัฐบาลไทยโดยกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหาวัคซีนที่มีมาตรฐานโลก ส่งตรงมาจากประเทศผู้ผลิต ได้รับการเก็บรักษาอย่างดี ถึงมือพี่น้องประชาชน พร้อมมีระบบตรวจสอบคุณภาพวัคซีนย้อนหลังทุกขวด วัคซีนที่พี่น้องประชาชนได้รับนั้นเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน
“นโยบายสำคัญตอนนี้ ต้องเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้เร็วที่สุดให้ได้ สิ่งที่สำคัญต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่ตอบสนองนโยบายของกระทรวงฯ และรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง จะต้องปิดเกมวัคซีนใน 4 จังหวัดภาคใต้ให้ได้ เพื่อให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติเช่นเดิม” นายอนุทิน กล่าว
@@ผวจ.ยะลา แจงมาตรการไม่ฉีดวัคซีนห้ามเข้า เป็นการขอความร่วมมือ
นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า มาตรการต่าง ๆ ของจังหวัดยะลาก่อนหน้านี้ที่มีการประกาศห้ามหน่วยงานราชการ ธนาคาร ให้บริการประชาชนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน รวมถึงการห้ามเข้าร่วมประกอบศาสนากิจทางศาสนานั้น เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด และขอทำความเข้าใจกับประชาชนชาวจังหวัดยะลา ว่าเป็นการขอความร่วมมือให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนได้เข้ารับวัคซีนอย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นมาตรการเชิงรุกของจังหวัด
นอกจากนี้ ในการปฏิบัติการเชิงรุก ก็ยังรวมไปถึงการรุกตรวจหาเชื้อในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในตลาดสด ย่านการค้า ในชุมชน หรือพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อ เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อ ขณะที่การเดินทางเข้าจังหวัดยะลานั้น ผู้ที่จะเดินทางต้องได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็ม หากผู้ที่เดินทางเข้ามายังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ก็จะมีบริการฉีดวัคซีนให้ ณ จุดดังกล่าวด้วย
ผู้ว่าฯยะลา กล่าวอีกว่า ได้กำชับไปยังทุกอำเภอให้ตั้งจุดฉีดวัคซีนที่อำเภอ เพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน ส่วนตามชุมชนในตำบล หมู่บ้าน ได้ให้สาธารณสุขอำเภอลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกกันทุกวัน ซึ่งทางคณะกรรมการควบคุมโรคฯ ก็มีความไม่สบายใจที่ยังพบการติดเชื้อเป็นจำนวนมาก อย่างล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 6 ราย ก็พบว่าส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน มีเพียงรายเดียวที่ฉีดวัคซีน 1 เข็ม แล้วเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อ จึงต้องใช้มาตรการเชิงรุกควบคู่กันเพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนมากที่สุด
@@ สสจ.ยะลา เผยมีไฟเซอร์ 1.2 แสนโดสพร้อมฉีดให้ประชาชน
ด้านนายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันของจังหวัดยะลา ถือว่าเป็นตัวเลขที่คงที่อยู่ที่ประมาณ 600-700 ราย ต่อวันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่า จำนวนผู้ป่วยต่อวันอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว สืบเนื่องจากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ที่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขต อ.เมืองยะลา อ.ยะหา อ.บันนังสตา และ อ.รามัน โดยพบในผู้สัมผัสร่วมบ้านหรือในครอบครัว และผู้สัมผัสที่มาจากการร่วมกิจกรรม
ในส่วนของจังหวัดยะลา ล่าสุดมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้วจำนวน 292,000 กว่าราย คิดเป็น 53 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด ส่วนเข็มที่ 2 จำนวน 185,000 กว่าราย คิดเป็น 34 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด ขณะนี้จังหวัดยะลามีวัคซีนไฟเซอร์อยู่ที่ 120,000 โดส ซึ่งสามารถฉีดเข็มที่ 1 ให้กับคนยะลา หรือผู้ที่มาทำงานที่ จ.ยะลา ได้อีก 120,000 คน ซึ่งถ้าฉีดวัคซีนถึง 95,000 โดส หรือ ฉีดหมดทั้ง 120,000 โดส ก็จะทำให้อัตราการฉีดเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ ก็จะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้
@@หญิงเบตงป่วยโควิดดับเป็นรายที่ 14
วันเดียวกันนี้ นายโยธิน ประชามติรัฐ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยมุสลิมเบตงพร้อมทีมตอบโต้โควิด-19 กู้ภ้ยมุสลิมเบตงได้สวมชุด PPE เดินทางไปตึกไอซียู โรงพยาบาลเบตง เพื่อไปรับร่างผู้เสียชีวิต เพศหญิง 1 ราย อายุ 58 ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 กลับไปฝังศพตามพิธีการศาสนาอิสลาม ที่กูโบร์ (สุสาน ) บ้านบังนังซีแน ต.ยะรม พร้อมประกอบพิธีละหมาดญานาซะห์ และปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จนการฝังแล้วเสร็จ นับเป็นการเสียชีวิตรายที่ 14 รายแล้ว ของ อ.เบตง จ.ยะลา โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
@@โคกโพธิ์จัดงานชักพระ งดรื่นเริง – งดขายของ
ส่วนที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้มีการจัดงานประเพณีชักพระ ครั้งที่ 72 ในเมืองสามวัฒนธรรม เนื่องในวันออกพรรษา ท่ามกลางการควบคุมโควิด 19 อย่างเข้มงวดและเป็นพิเศษ โดยมีเรือพระที่เข้าร่วมเพียง 6-7 ลำ จากเดิมปีก่อนๆจะมีเรือพระเป็น 100 ลำ ซึ่งการจัดงานประเพณีชักพระในปีนี้ แม้จะมีการงดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่ม งานรื่นเริงและงดการขายของเหมือนในสถานการณ์ปกติ แต่ก็เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีไม่ให้ขาดเท่านั้นเอง
นายยืน กาญจนจันทร์ นายกเทศบาลตำบลโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กล่าวว่า งานชักพระวันนี้ ได้จัดขึ้น ตามประเพณีชักพระ ครั้งที่ 72 เพื่อยืนยัดให้คงมีทุกปี แต่สถานการณ์โควิดในพื้นที่ทำให้เราต้องย่อกิจกรรมทั้งหมด เหลือเฉพาะกิจกรรมที่สำคัญเท่านั้น ไม่มีงานรื่นเริงขายของ ที่อาจเป็นการรวมตัว นอกจากนี้ยังมีการจัดระเบียบสำหรับพี่น้องที่จะเข้ามาร่วมทำบุญ ต้องไปที่พักคอยเข้าตรวจโควิด ก่อนที่จะเข้าบริเวณลานจอดเรือพระและแต่ละรอบจะเข้าได้ ไม่เกิน 20 คน
นางนิแมะ อาบะ แม่ค้าขายขนมจาก กล่าวว่า ประเพณีชักพระปีนี้ ที่ไม่ได้ขายของ เขากลัวว่าจะมีการรวมตัวแล้ว จะเกิดการระบาดโควิด ก็ไม่เป็นไรเข้าใจดี แต่ถ้าขายของได้ก็อยากขาย เพราะขายดีมาก ทุกๆ ปี ช่วงนี้สามารถเก็บเงินได้เลย