‘รองโฆษกรัฐบาล’ ย้ำ ศบค.ส่วนหน้าดูแล 4 จว.ชายแดนใต้ ไม่ซ้ำซ้อนส่วนกลาง ตั้งเป้าคุมระบาดใน 2 เดือน
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล” ถึงการตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด – 19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศบค. ส่วนหน้า ว่า ศบค. ส่วนหน้า จะทำหน้าที่ดูแล และป้องกันการแพร่ระบาด โควิด-19 ใน 4 จังหวัดคือ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี และสงขลา ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดสูง โดยจะไม่ซ้ำซ้อนกับศบค. ส่วนกลาง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความมั่นใจว่าจะดูแลสถานการณ์ให้ได้อย่างทั่วถึง เป็นการทำงานบูรณาการจากกระทรวงสาธารณสุข การดูแลการเข้าออกด่านทางบก และการประสานงานทางศาสนา ตั้งเป้าว่าจะควบคุมและลดการระบาดภายใน 1-2 เดือน หรือลดผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ให้ได้ร้อยละ 10 ต่อสัปดาห์
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ในแต่ละจังหวัดก็จะมีมาตรการที่สอดคล้องกับพื้นที่ เช่น จังหวัดยะลา จะตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้ 70% ภายในเดือนตุลาคม ล่าสุดการฉีดวัคซีนจนถึงวันที่ 18 ตุลาคมนี้ได้ฉีดไปแล้ว 62% ของจำนวนประชากรในจังหวัด นอกจากนี้ในจังหวัดยะลายังมีมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมาโดยผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ออกประกาศ 2 ฉบับ คือ ผู้ที่อยู่ในด่านรอยต่อขาเข้า ทั้ง 12 ด่าน ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็ม ถึงจะสามารถเข้ามาในจังหวัดยะลาได้ และในวันที่ 20 ตุลาคม ได้ประกาศให้ประชาชนที่จะเข้ามาติดต่อหน่วยงานราชการ ธนาคาร หรือการละหมาด ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย หนึ่งเข็มเพื่อลดการแพร่เชื้อ
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ส่วนจังหวัดนราธิวาส ก็ออกมาตรการตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้ 70% พร้อมการออกมาตรการด้านสาธารณสุข เช่น การป้องกันการแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ใหญ่ การใส่ใจกลุ่มผู้ป่วยหนัก โดยการกระจายยาฟาร์วิพิราเวียร์ให้รวดเร็ว การพิทักษ์ป่วยตาย คือการดูแลผู้ป่วยหนักไม่ให้เสียชีวิต โดยการเพิ่มเตียงรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง สุดท้ายคือการคลายล็อกดาวน์ ที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการป้องกันตัวเอง
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่