ยะลาปรับโรงแรมกลางเมืองเป็น Hospitel รองรับผู้ป่วยโควิดล้น หลังระบาดหนัก ผู้ติดเชื้อพุ่ง

ยะลาปรับโรงแรมกลางเมืองเป็น Hospitel รองรับผู้ป่วยโควิดล้น หลังระบาดหนัก ผู้ติดเชื้อพุ่ง

จากสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลาล่าสุด มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 3 4,000 ราย ติดเชื้อรายวันกว่า 700 ราย และมีผู้เสียชีวิตทุกวัน ในจำนวนนี้รักษาหายกลับบ้านแล้วกว่า 26,000 ราย และต้องเข้ารับการรักษาทั้งใน รพ.จังหวัด รพ.สนาม กักตัวในชุมชน กักตัวที่บ้านกว่า 7,900 ราย

ซึ่งสถานที่อย่างโรงพยาบาล ประจำจังหวัดอำเภอ สถานที่ราชการ โรงเรียนต่างๆ ทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดยะลา ต่างต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นสถานที่กักตัว เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ ล่าสุดทางด้านโรงแรมในตัวเมืองยะลาได้ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นโรงพยาบาลสนาม ประเภท Hospitel รองรับผู้ป่วย-โควิด 19 ที่มีอาการไม่รุนแรง หรือผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว อีกแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตอำเภอเมือง แล้ว หลังจำนวนผู้ติดเชื้อจังหวัดยะลา เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความพยายามของทางหน่วยงานสาธารณสุข ซึ่งได้เร่งตรวจเชื้อเชิงรุกแยกคนติดเชื้อออกจากคนไม่ติดเชื้อ เจอเชื้อนำเข้ารักษาทันที เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

นายอุปถัมภ์ ศิริไชย เจ้าของโรงแรมยะลาแกรนด์พาเลซ กลางเมืองยะลายอมรับว่าแรกๆ ไม่เห็นด้วยกับการนำโรงแรมมาทำเป็นสถานที่กักตัว แต่เนื่องจากหลายฝ่ายเห็นว่าทางโรงแรมมีความเหมาะสมห่างไกลจากชุมชน พอ รพ.มาคุย รวมถึง ลงทำประชาพิจารณ์กับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ก็เห็นด้วย ไม่งั้นก็ไม่ไหว ถ้าเราคนยะลาไม่ช่วยกันไม่มีที่ให้ผู้ติดเชื้อกักตัว คนจะติดกันเยอะ ก็เลยได้ช่วย และอยากให้ทุกอย่างกลับมาดีเหมือนเดิมโดยเร็ว ได้ทำธุรกิจ สิ่งเดียวที่ทำได้ คือช่วยให้เป็น รพ. ให้คนไม่ไปกักตัวที่บ้านจะได้ไม่ไปแพร่กระจายเชื้อในครอบครัว ชุมชน

สำหรับทางโรงแรมได้เริ่มเปิดเป็นที่กักตัวเมื่อ 2 ตุลาคม 2564 เนื่องจากสถานที่เราเป็นโรงแรมมีห้องพักอยู่แล้ว รองรับได้ เต็มที่ 200 ราย ทาง รพ.ยะลา ก็เข้ามาจัดการกับระบบภายในได้เลย โดยร่วมกับทาง โรงแรม ซึ่งจะเป็นผู้จัดการดูแลเรื่องอาหารให้ผู้ป่วย ขณะนี้ก็มีผู้ป่วยพักกว่า 70 ราย แต่ละห้องก็มี 2 ราย 3 ราย 4 รายบ้าง แล้วแต่ขนาดของห้อง

ตอนนี้ได้แต่หวังว่า สถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ได้ทำธุรกิจต่อไปเศรษฐกิจ จะได้เดินหน้าได้ ส่วนหนึ่งความร่วมมือจากชาวยะลาทุกคน ที่ต้องปฎิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด มีระเบียบวินัย จะได้ไม่เป็นการไปเพิ่มจำนวนยอดผู้ติดเชื้อในแต่ละวันให้มากยิ่งขึ้น