ยะลา – ชาวไทยมุสลิมใน อ.เบตง จ.ยะลา ต่างเร่งมือทำ “ปูโล๊ะลือแม” หรือ “ข้าวหลามบาซูก้า” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ของพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ พร้อมพลิกวิกฤตจากโควิด-19 เป็นโอกาสทำส่งขายลงโชเชียล มียอดสั่งจองกว่า 200 กระบอก
วันนี้ (11 พ.ค.) หากมีการดูดวงจันทร์ก็จะทำให้รู้ว่าใกล้ถึงวันฮารีรายออีดิ้ลฟิตรี หรือรายอปอซอ แต่ละบ้านจะจัดเตรียมอาหารมากมายกันอีกครั้ง เพื่อไว้ต้อนรับแขกหรือผู้มาเยือน ทั้งญาติมิตรและเพื่อนสหาย ขนมหลากหลายชนิดซึ่งแต่ละบ้านจะเลือกทำเพื่อรอรับแขก เอกลักษณ์ในอัตลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่อื่นที่ใด และต้องมีกันเกือบทุกบ้านตั้งแต่โบราณมา สิ่งนั้นก็คือ “ปูโล๊ะลือแม” หรือ “ข้าวหลามบาซูก้า” ตามที่คนรุ่นหลังมักจะเรียกกัน เพราะข้าวหลามจะมีขนาดใหญ่ยาว และเหมือนปืนบาซูก้านั่นเอง
น.ส.หะยา บิลเหลม อยู่บ้านเลขที่ 1/4 หมู่ 4 ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา บอกว่า วันนี้ก็ได้รวมพี่น้องมาเร่งทำข้าวหลามบาซูก้า หรือปูโล๊ะลือแม ที่ต้องใช้ไม้ไผ่พันธุ์สมาเลียนเท่านั้น และมีที่ อ.เบตง ที่เป็นแหล่งของไม้ไผ่ชนิดนี้ โดยลำต้นมีขนาดข้อยาว ตัวเนื้อไม้บาง มีกลิ่นหอม และน้ำหนักเบา
น.ส.หะยา บิลเหลม ยังบอกอีกว่า ชาวมุสลิมในอำเภอเบตง ช่วงนี้ต่างเร่งทำข้าวหลามไว้สำหรับเตรียมรับประทานในช่วงวันอีดิ้ลฟิตรี ประจำฮิจเราะห์ศักราช 1442 หรือวันฮารีรายอ ที่คาดว่าจะเป็นวันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 ซึ่งขนบธรรมเนียมของชาว อ.เบตง นั้นจะเผาข้าวหลามบาซูก้าที่ยาวและใหญ่ หรือภาษายาวีจะเรียกว่า ปูโล๊ะลือเม ซึ่งช่วงนี้ไปหาสู่บ้านญาติพี่น้องไม่ได้ ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม จึงได้พลิกวิกฤตโควิด-19 ให้เป็นโอกาส โดยนอกจากทำกินกันในครอบครัวแล้ว ได้เปิดรับออเดอร์ข้าวหลามบาซูก้าด้วย เนื่องจากอยู่ในช่วงวันฮารีรายออีดิ้ลฟิตรี
ซึ่งข้าวหลามบาซูก้านี้รับรองความอร่อยมีความกลมกล่อม โดยเฉพาะเป็นสูตรโบราณของคุณพ่อคุณแม่ที่สอนกันสืบต่อมา ข้าวหลามบาซูก้ามี 2 แบบให้เลือกทาน แบบธรรมดากระบอกละ 120 บาท และแบบใส่ถั่วดำกระบอกละ 130 บาท พร้อมส่งฟรีถึงหน้าบ้าน ซึ่งหากใครเคยได้ทานสูตรนี้จะรู้ว่ามีความอร่อย สามารถทานเปล่าก็อร่อย หรือจะจิ้มแกงมัสมั่นก็สุดฟิน หรือมีแค่นมข้นก็ละมุนแล้ว โดยปีนี้มีประชาชนออเดอร์กันถล่มทลายกว่า 200 กระบอก
ซึ่งขั้นตอนในการทำปูโล๊ะลือแม มีความยุ่งยากพอสมควร เพราะต้องเข้าไปในป่าเพื่อขึ้นเขาไปหาไม้ไผ่ที่มีขนาดพอเหมาะ มีลำต้นตรง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-7 เซนติเมตร เพื่อนำกลับมาเลื่อยเป็นท่อน ท่อนละประมาณ 75-90 เซนติเมตร แล้วแต่จะชอบความยาวขนาดไหน จากนั้นก็นำมาทำความสะอาด แล้วหยอดใบตองที่ม้วนเป็นบ้องยาวเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ โดยไม่ให้ใบกล้วยพับ หรือติดขัด และต้องให้ใบตองแนบกับกระบอกไม้ไผ่ หากไม่เป็นเช่นนั้นเวลาย่างข้าวเหนียว ข้าวเหนียวจะติดกระบอกไม้ไผ่จะรับประทานยากยิ่งขึ้นด้วยนั่นเอง