ที่โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา พ.ต.ท.ต่อพันธุ์ ปุสันเทียะ สวญ.สภ.ยะรม พร้อมด้วยนางสาวนพคุณ อ่อนโยนชัย และนางสาวทศพร ธรรมธนวณิช ตัวแทนกลุ่ม Betong Next Gen ในนามชาวเบตง ได้ร่วมกันส่งต่อน้ำใจ มอบน้ำดื่ม ผลไม้ พร้อมเขียนข้อความให้กำลังใจลงบนกระดาษโน๊ตโพสต์อิทหลายๆใบมารวมกันเป็นรูปหัวใจ มอบให้กับแพทย์หญิงปัทมพันธ์ อนันตาพงศ์. ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง เพื่อเป็นกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ มีน้ำดื่มสะอาดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยสู้วิกฤตไวรัสโควิด-19 โดย จ.ยะลา มีผู้ป่วยสะสมแล้ว 23 ราย
นางสาวนพคุณ อ่อนโยนชัย ชาวอำเภอเบตง กล่าวว่า จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่อยู่ในขณะนี้ ทำให้สถานการณ์ปัจจุบันยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวเบตงได้ตระหนักถึงความยากลำบากและความเหน็ดเหนื่อยในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงขอเป็นกำลังใจ เพื่อแสดงความห่วงใย หมอ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างหนัก ในการช่วยเหลือประชาชนต่อสู้และป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระลอกใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ เราพร้อมยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องประชาชนและเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน
แพทย์หญิงปัทมพันธ์ อนันตาพงศ์. ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง กล่าวขอบคุณทุกกำลังใจที่มาร่วมส่งมอบน้ำใจในครั้งนี้ โดยจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด ขอฝากให้ประชาชน ดูแลป้องกันตนเอง รักษาความสะอาดสวมหน้ากาก ปฏิบัติตามมาตรการ ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ห่างไกลจากโรคโควิด -19
ซึ่งล่าสุดโรงพยาบาลเบตง มีผู้เสียชีวิตรายแรก จากโรคโควิด -19 แล้ว 1 ราย เป็นชายชาวเบตง อายุ 63 ปี ขณะป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลเบตง มีโรคประจำตัวเป็นไตวายเรื้อรังและภาวะโรคแทรกซ้อน เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเบตง วันที่ 15 เม.ย. 2564 มาด้วยอาการรู้สึกเหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ มีไอ วินิจฉัยเบื้องต้น Pneumonia ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างหาเชื้อโควิด วันที่ 18 เม.ย. 2564 รับแจ้งพบเชื้อ วันที่ 19 เม.ย. 2564 จึงย้ายผู้ป่วยเข้ารับการรักษาห้องแยกโรคติดเชื้อความดันลบ (AIIR) ผู้ป่วยเสียชีวิต วันที่ 25 เม.ย. 2564 เวลา 06.45น. ซึ่งทางโรงพยาบาลเบตงได้ปฏิบัติตามแนวทางการจัดการศพผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ตามหลักกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้
1. เมื่อผู้ป่วยเสียชีวิต สารคัดหลั่งที่อยู่ในศพยังสามารถแพร่กระจายเชื้อได้
2. ควบคุมสารคัดหลั่ง โดยเก็บศพไว้ในถุงซิปกันน้ำอย่างน้อยสองชั้นและใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทาด้านนอกถุงเก็บศพ
3. ห้ามเปิดถุงเก็บศพโดยเด็ดขาด ไม่มีการอาบน้ำศพ รดน้ำศพ และฉีดยารักษาศพ
4. บรรจุศพพร้อมถุงลงในโลงศพ และปิดฝาโลงให้สนิท ญาติสามารถนำศพไปทำพิธีกรรมทางศาสนาได้อย่างปลอดภัย
5. การเผาหรือฝังศพจะไม่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ